Hyperdimension Neptunia MK2 (PS3)
เอาจริงๆเกมนี้ผมเล่นจบไปได้ก่อนที่เกมไบโอ 6 จะออกอีกนะแต่พอจะมารีวิว เกมดันไบโอ 6 มันดันออกพอดีเลยเล่นยาวไม่มีโอกาสได้รีวิวหลังจากจบไบโอ 6 ผมก็ได้กลับมาเล่นเกมนี้อีกรอบจบได้ถ้วยเพลท(เย่ๆ ถ้วยที่ 2 ตั้งแต่เล่น PS3 มา)เลยกะจะเอามารีวิวแต่เกม Bravely Default ก็ดันมาออกซะอีก(กำของเกมนี้จริงๆเลยแฮะ)ก็เลยเล่นยาว(อีกแล้ว).... แล้วก็ผมคิดได้ว่าเฮ้ย.... พอก่อนแล้วกันขอมาเขียนรีวิวเกมนี้ก่อนดีกว่าเดียวจะไม่ได้เขียนกันพอดี T^T เกมนี้ต้องบอกก่อนว่ามันเป็นภาคที่ 2 ของซีรี่นี้เลยนะครับและที่ผมคิดว่าหลายๆคนคงชอบก็น่าจะเป็นเพราะตัวเกมไม่มีตัวผู้อยู่เลยนั้นเอง(มาสร้างฮาเร็มกันเตอะ ><)
เกมๆนี้ Concept ของเกมจะเป็น เทพธิดาประจำเมืองแห่งเครื่องเกม
(ถ้าในเวอร์ชั่น Eng จะเรียก CPU แทน)โดยมีตัวแทนของเครื่องเกมคอนโซล เช่น PS3,Wii,XBOX360 แต่ในภาคนี้เราจะได้เล่นเป็นเทพธิดาน้องสาว(เครื่องเกมส์มือถือหรือHandheld) ซึ่งจะต่อกรกับตัวร้ายอย่าง Arfoire (ประมาณพวกแผ่นผี CFW หรือหัวโปร อะไรประมาณนั้น)
ละครหลักๆของภาคนี้ได้แก่
เนปเกียร์(ตัวแทนของเกมส์เกียร์)
ยูนิ(ตัวแทนของ PSP)
ฝาแฝดรอม กับ แรม (ตัวแทนของ DS)
และตัวละครที่เป็น มนุษย์ เช่น
IF,คอมปา,นิเซะ
เนื้อเรื่อง
หลักจากจบภาคที่แล้ว ตัวร้าย Arfoire โดนจัดการได้โดย 4 สาว (เทพธิดาคอนโซนนั้นหละ) ก็ได้เกิดตัวร้ายกลุ่มใหม่ขึ้น 4 เทพธิดา และ 1 เทพธิดาน้องสาว จึงต้องเดินทางไปจัดการแต่พลาดท่าเพราะตัวร้ายมีพลังที่แข็งแกร่งจากการดูดค่าแชร์ของแต่ล่ะเมือง(หรือแรงศรัทธา)ของแต่และเมืองเลยทำให้ทั้ง 5 สาวถูกจับ แต่หลังจากนั้น คอมปา และ IF ก็ได้เดินทางมาช่วย ซึ่งก็สามารถช่วยได้แค่ เนปเกียร์ และ พาหนีออกมาจากที่นั้นได้ และหลักจากนี้ต่อไป เนปเกียร์ก็จะต้องเดินทางไปยังเมืองต่างๆเพื่อค่าแชร์ของแต่ล่ะเมืองและของยืมพลังของ เทพธิดาน้องสาวในแต่ล่ะเมืองเพื่อมาช่วย 4 สาวเทพธิดาจากตัวร้ายและจัดการมันให้ได้เนื้อเรื่องหลักของเกมจะไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไหร่นัก โดยฉากจบของเกมจะมี 8 ฉากจบด้วยกันเรียกได้ว่าถ้าใครจะเก็บ CG ของฉากจบแต่ล่ะฉากก็เล่นกันยาวๆไปเลยทีเดียว เนื้อเรื่องของเกมส์จะใส่บทฮาๆและติ้งต๊อง เยอะพอสมควรอ่านบทพูดแล้วเพลินๆดีเหมือนกัน บางมุกก็ล้อกันกระจายเลย แต่บางมุกผมก็เข้าไม่ถึงเหมือนกันก็มีเยอะ T^T
เกมส์เพล
เป็นเกม RPG ผสมกับเกมแนว Super Robot Wars คือถ้าเราลงไปในดันเจี้ยน เราจะเห็นมอนเตอร์เดินอยู่ตามฉากถ้าเราเดินไปชนมันจะตัดเข้าฉากต่อสู้ หลังจากนั้นเราต้องเดินเข้าไปหามอนเตอร์ตามขอบเขตที่เราเดินได้ถ้ามอนเตอร์อยู่ในระยะโจมตีเราก็สามารถจะโจมตีมันได้เลยตามเกท AP ซึ่งการโจมตีแต่ล่ะครั้งหรือแต่ล่ะท่าจะเสีย AP ไม่เท่ากัน ซึ่งค่า AP นั้นจะได้มาจากการเปลี่ยนเทิร์น การโจมตีมอนเตอร์หรือการโดนมอนเตอร์โจมตี และ จะได้ค่า SP มาด้วย ค่า SP จะสูงสุดอยู่ที่ 300 สามารถเก็บได้ 100 ต่อการเจอมอนเตอร์ ถ้าเก็บไว้เกินกว่านั้นพอเจอมอนเตอร์ตัวใหม่มันจะลดให้เหลือ 100 เท่าเดิม และไม่สามารถเก็บไว้ได้ถ้าออกนอกดันเจี้ยน แต่ถ้าออกนอกดันเจี้ยนค่า HP จะเต็มแทน
เล่นไปได้ซักพักนึงการเลเวลเยอะขึ้นจะมีการโจมตีแบบคอมโบเข้ามาด้วยซึ่งถ้าเราโจมตีมอนเตอร์ทีล่ะเยอะๆและหลายครั้ง ค่า SP บวกเยอะมากจนเรียกได้ว่า เราใช้ Skill แทนที่จะเสีย SP แต่กลับได้ SP เพิ่มซะอย่างนั้น
ตัวเกมยังมีระบบเท็กเจอร์ ที่เราสามารถใส่เท็กเจอร์ให้ตัวละครของเราได้(แต่ได้แค่เนปเกียร์คนเดียวนะ T^T) ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะใส่เท็กเจอร์แบบไหน........... ใครที่ลองเราก็ลองไปหาดูจาก Google แล้วกันครับ ^^
เกมส์เป็น 2 ภาษานะครับ เล่นได้ทั้ง JP และ Eng ตามสไตของค่านี้อยู่แล้ว(แต่เวอร์ชั่น 2 ภาษาออกช้ากว่า JP อยู่ดี)
กราฟฟิก
จัดได้ว่าธรรมดามากครับไม่สวยและก็ไม่ขี้เหร่เฟรมเรทตกเป็นบางทีเสื้อผ้าเปลี่ยนไปตามชุดที่เราใส่ วิ่งๆอยู่ในดันส่องมุมเงย..... โอ้... น้องลิงโผล่อ่ะ เนปเกียร์ ^^ ดีไซร์ตัวละครออกมาได้โมเอะยิ่งนัก(ผมอวยเจ้นัวร์ ตัวแทนของ PS3 ^^)สรุป
เกมนี้ทำมาเอาจริงหนุ่มๆอย่างแรงเลยไม่มีตัวผู้มาให้ขัดใจตัวละครมีครบทุกแบบทุกสไตร์เลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น สาวซึน สาวต๊อง สาวเงียบ โลลิ หรือ สาววาย และอีกมากมาย (อวยกันได้เต็มที) แต่ที่แบบเซ็งคือกว่าเราจะได้สาวๆมาเล่นครบทุกตัวก็แทบจะเกือบจบเกมแล้วอ่ะดิ ระบบการเล่นสนุกดีเวลาคอมโบนี้กดรัวๆมันเลย(กดเกินหลุดคอมโบเลยก็มี T^T) DLC เยอะมากทั้งเสียตังและไม่เสียก็มีเยอะ ส่วนใหญ่ที่เสียเงินก็จะเป็นพวกชุดว่ายน้ำหรือชุดเมด ประมาณนั้น ส่วนของฟรีก็จะเป็นพวก มอนเตอร์ในโคลิเซียม หรือ สกิคคู่ เป็นหลักถึงเกมนี้จะไม่ใช่เกมส์เทพระดับตำนานแต่ เกมส์นี้จัดอยู่ในแนวเล่น สนุกๆขำๆ ถ้ามีคนถามว่าอยากเล่นเกมส์ RPG แต่ไม่รู้จะเล่นเกมอะไรดี ผมคงแนะนำเกมนี้ไว้เล่นขำๆก็ โอเคครับปิดท้ายด้วยภาพ CG ของเกมหน่อยแล้วกันครับแล้วเจอกับรีวิวเกมส์ต่อไปอีกไม่นานครับ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น